
การทำไคเซ็น Kaizen
ที่มาของไคเซ็น Kaizen เป็นแนวคิดในการพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน มาจากภาษาญี่ปุ่น
Kai แปลว่า การเปลี่ยนแปลง (Change) Zen แปลว่า ดี (Good) ไคเซ็น (Kaizen) แปลว่า การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
วิธีการทำ Kaizen
การทำ Kaizen นั้นมีหลายรูปแบบอยู่ที่การจัดการของแต่ละที่ว่าจะต้องการทำรูปแบบของ Kaizen อย่างไร เช่น Kaizen แบบให้พนักงานทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม เพราะหัวใจของการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการทำงานสิ่งสำคัญคือการให้ทุกคนในองค์กรได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาปรับปรุง แสดงความคิดเห็นเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและประสบความสำเร็จในเป้าหมายไปด้วยกัน
หลายบริษัทมักกำหนดหัวข้อการทำไคเซ็นอย่างชัดเจนโดยกำหนดเป็นเป้าหมาย (KPI) ของแผนกเช่นในแต่ละเดือนพนักงานทุกคนจะต้องนำเสนอหัวข้อในการทำไคเซ็นในการทำงานของตนเองโดยการนำเสนอนั้นจะมาในรูปแบบของไอเดียก่อนให้หัวหน้างานทำการคัดเลือกหัวข้อที่พนักงานเสนอมาอีกครั้งว่าสามารถทำได้จริงหรือเป็นประโยชน์มากขึ้นหรือไม่เมื่อหัวหน้างานคัดเลือกหัวข้อไคเซ็นแล้วจึงส่งหัวข้อดังกล่าวเพื่อนำเสนอผู้บริหารต่อไป
พนักงานหาหัวข้อ > หัวหน้างานคัดเลือกให้คำปรึกษา > นำเสนอผู้บริหาร
การจัดตั้งเป็นเงินรางวัลกิจกรรม Kaizen สำหรับไอเดียที่พนักงานเสนอมาหากหัวข้อนั้นสามารถนำมาทำไคเซ็นได้จริงก็จะได้รับเงินรางวัลหรืออาจจะให้รางวัลเป็นลำดับขั้นเช่น
ขั้นที่ 1 เสนอเป็นไอเดีย ได้เงินรางวัล 20 บาท
ขั้นที่ 2 ได้รับเลือกไปนำเสนอผู้บริหาร 30 บาท
ขั้นที่ 3 นำไปทำเป็นไคเซ็น 100 บาท
หรืออาจมีลำดับขั้นความยาก ความง่าย ของเรื่องที่นำเสนอมา อยู่ที่เกณฑ์ที่เราตั้งไว้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามความเหมาะสมของแต่ละที่ ไม่มีผิดหรือถูก
ตัวอย่างการทำ Kaizen ง่ายๆ เช่น
- การติดเทปบริเวณหน้าแอร์ เพื่อชี้บ่งให้เห็นว่า แอร์เปิด หรือ ปิดอยู่ หากแอร์เปิดอยู่ เทปที่ติดไว้ ก็จะปลิว ให้เราเห็นได้ เพื่อป้องกันการลืมปิดแอร์
- การปริ๊นเอกสาร การทำงานปกติ หากทุกคนสามารถสั่งปริ๊นเอกสารได้เลย โดยไม่ต้องใส่รหัส จะเห็นว่า เอกสาร
ที่ปริ๊นออกมาถูกลืมทิ้งไว้ ไม่มีคนมาเก็บ จึงกลายเป็นเอกสารไม่มีเจ้าของ ต้องทิ้ง Kaizen โดยการตั้งรหัส หากใครสั่งปริ๊นเอกสารมา จะต้องเดินมากดรหัสที่เครื่อง เมื่อใส่รหัสแล้วเอกสารจึงปริ๊นออกมา ก็จะลดปริมาณการใช้หมึกปริ๊นและกระดาษลงได้ ทำให้เสียค่าใช้จ่ายลดลง
- การ Kaizen วิธีการทำงาน เช่น ในการทำงานปกติ เมื่อต้องยกแม่พิมพ์ขึ้นเก็บบนชั้น พนักงานต้องก้มลงไปยก
Kaizen โดยการเปลี่ยนมาใช้รถยกที่สามารถปรับระดับได้ เมื่อต้องเก็บแม่พิมพ์ ก็ปรับระดับให้พอดีกับชั้นวางแม่พิมพ์ แล้วดันแม่พิมพ์เข้าที่เก็บ พนักงานก็ไม่ต้องก้มลงไปยก ทำให้เกิดความปลอดภัยกับพนักงาน
- การเคลื่อนย้ายโต๊ะต่างๆ การทำงานปกติต้องใช้คน 2 คน ในการยก Kaizen โดยการเพิ่มล้อเข้าไป ก็ไม่ต้องยก แค่
คนเดียวก็เคลื่อนย้ายได้ หรือถ้าใส่ล้อแล้วกลัวโต๊ะเคลื่อนที่ได้ ก็ Kaizen อีกครั้ง โดยการใส่ที่ล็อกล้อ ในกรณีที่เราต้องการให้โต๊ะนั้นอยู่กับที่
หัวข้อในการทำงานไคเซ็นมีมากมายอยู่ที่ว่าเราจะเริ่มคิดหรือไม่อย่าคิดว่าทำไม่ได้เพราะหากเราคิดว่าทำไม่ได้ก็จะไม่เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอาจจะเริ่มจากการทำงานของเราติดปัญหาตรงไหนลองเอามาคิดเพื่อปรับปรุงก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำไคเซ็นนั่นเอง
ประโยชน์จากการทำ Kaizen
จะเห็นว่าจากตัวอย่างข้างตนเราจะเห็นประโยชน์ของการทำ Kaizen จะเป็นประโยชน์เรื่องอะไรก็อยู่ที่เราทำ Kaizen เรื่องไหนการทำ Kaizen สามารถทำได้ทุกเรื่อง
- หากทำ Kaizen เรื่องค่าใช้จ่าย ผลที่ได้ คือ ค่าใช้จ่ายลดลง มีผลกำไรมากขึ้น
- Kaizen เรื่องความปลอดภัย ก็จะทำให้พนักงานมีความปลอดภัยมากขึ้น
- Kaizen ขั้นตอนการทำงาน ก็จะลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน ทำให้พนักงานทำงานง่ายขึ้น ใช้เวลาน้อยลง ผลผลิตก็จะเพิ่มขึ้น
- พนักงานทุกคนมีส่วนร่วม ทำให้เกิดการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
สรุป
การทำไคเซ็นเหมือนเป็นเรื่องหรือหัวข้อเล็กๆน้อยๆซึ่งบริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นหลายที่นำมาใช้จนมีรายการทำ Kaizen หลักแสนรายการลองคิดดูว่าบริษัทที่มีการทำ Kaizen เป็นแสนรายการนั้นจะถูกพัฒนาไปมากโขเพียงใดดังนั้นทุกคนสามารถทำได้ Kaizen ได้ทันทีเพื่อให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาในองค์กรของเราให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สนใจเรียนหลักสูตรการทำ Kaizen อย่างมืออาชีพ สามารถติดต่อเราเพื่อช่วยบอกแนวทางการเริ่มต้นการทำ Kaizen อย่างถูกวิธีตามเบอร์โทรศัพท์ด้านล่าง