หลักการและเหตุผล
ใน ปี 2559 มีลูกจ้างประสบอันตรายจากการทำงาน จำนวน 90,990 ราย ซึ่งการประสบอันตรายนั้นมีสาเหตุจากยานพาหนะเป็นจำนวน 3,173 ครั้ง ถือเป็น 1 ใน 10 ของสาเหตุหลักที่ทำให้ลูกจ้างประสบอันตราย (สำนักงานกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงานม, 2559) และจากสถิติการประสบอันตรายข้างต้นพบว่าปัจจัยที่อาจทำให้เกิดอันตรายจากการใช้งานรถยกนั้น ได้แก่
1. การปรับงานที่สูงเกินมาตรฐาน และวางชิ้นงานไม่สมดุล
2. พื้นทางเดินรถขรุขระ มีสิ่งของวางกีดขวาง
3. หมุนและขับรถด้วยความเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่คับแคบ
4. ขับรถโดยชิ้นงานบดบังวิสัยทัศน์ในการขับขี่ เช่น ชิ้นงานสูง หรือการขับขี่ในทางลาดชัน
5. การฝ่าฝืนกฎระเบียบโดยใช้รถยกเป็นรถโดยสาร
6. การใช้งานรถยกผิดประเภท เช่น ใช้แทนนั่งร้านหรือบันไดในการขึ้นที่สูง
7. ไม่ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย ฯ
เพื่อเป็นการป้องกันและลดการประสบอันตรายที่จะเกิดกับลูกจ้างและผู้ที่ปฏิบัติงาน ภาครัฐจึงได้ออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องสำหรับให้ผู้ที่ใช้งานรถยก ได้ปฏิบัติตาม ดังนี้ กฎหมายการทํางานเกี่ยวกับ เครื่องจักร ปั้นจั่น และ หม้อน้ำ 2564 มีสาระสำคัญคือ “รถยก” หมายความว่า รถที่ติดตั้ง อุปกรณ์ใช้สําหรับการยกหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของ และส่วนที่ ๔ ข้อ ๓๖ นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างที่ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่ธิบดีประกาศกําหนด ทําหน้าที่เป็นผู้ขับรถยก
ดังนั้นเพื่อปฏิบัติให้สอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด และลดการประสบอันตรายภายในองค์กร การจัดอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจและสร้างทักษะการปฏิบัติงาน การขับขี่รถยกอย่างปลอดภัย และการบำรุงรักษา ให้กับพนักงานและผู้เกี่ยวข้องที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการใช้งานรถยกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกหน่วยงานที่มีการนำรถยกเข้ามาใช้ในการยกเคลื่อนย้ายสิ่งของ
วัตถุประสงค์
1) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีทักษะและความรู้เกี่ยวกับการใช้รถยกมากขึ้น
2) เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถตรวจเช็คและบำรุงรักษารถยกได้อย่างถูกต้องเพื่อให้เกิดปลอดภัยอยู่เสมอ
3) เพื่อให้ผู้ที่เข้าอบรมเกิดความตระหนักถึงความปลอดภัยในการทำงานกับรถยก
4) เพื่อให้องค์กรปฏิบัติได้สอดคล้องตามกฎหมายและมาตรฐานสากลกำหนด
5) เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่จะเกิดจากการใช้รถยก
คุณสมบัติผู้เข้าอบรม
ผู้เกี่ยวข้องกับการขับขี่รถยก
จำนวนผู้เข้าอบรม/รุ่น จำนวน 1-30 ท่าน/รุ่น
วิธีการฝึกอบรม บรรยาย / กรณีศึกษา / ฝึกภาคปฏิบัติ
วิธีการประเมินผลและเกณฑ์การวัดผล
- ระยะเวลาเข้ารับการฝึกอบรม 100% จำนวน 12 ชั่วโมง
- มีแบบทดสอบก่อน และหลังการฝึกอบรม
- ทดสอบภาคปฏิบัติหลังฝึกอบรม
สิ่งที่จะได้รับหลังการอบรม วุฒิบัตรผ่านการอบรม
กำหนดการฝึกอบรม หลักสูตร การขับขี่รถยกอย่างปลอดภัย และการบำรุงรักษา
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
วันที่ 1 | |
08.30-09.00 น. | ลงทะเบียน
ทำแบบทดสอบก่อนการฝึกอบรม |
09.00-10.30 น. | ภาคทฤษฎี 1) ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับฟอร์คลิฟท์ 2) อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล |
10.30-10.45 น. | พักเบรค |
10.45-12.00 น. | 3) ส่วนประกอบ/อุปกรณ์ / แผงควบคุมและระบบไฟเตือนต่างๆ 4) การตรวจสอบความปลอดภัยก่อนการใช้ฟอร์คลิฟท์ |
12.00-13.00 น. | พักรับประทานอาหาร |
13.00-14.30 น. | 5) ความปลอดภับในขณะปฏิบัติงานโดยฟอร์คลิฟท์ 6) เทคนิคการยก / เคลื่อนย้าย / จัดเรียงและตักจ่ายสินค้า |
14.30-14.45 น. | พักเบรค |
14.45-16.00 น. | 7) ความปลอดภัยในการจอดฟอร์คลิฟท์ 8) กฎความปลอดภัยในการใช้ฟอร์คลิฟท์ |
วันที่ 2 | |
08.30-09.00 น. | ลงทะเบียน |
09.00-10.30 น. | ภาคทฤษฎี
9) การตรวจและบำรุงรักษาฟอร์คลิฟท์ได้อย่างถูกวิธี 10) การปฏิบัติเมื่อฟอร์คลิฟท์เสีย |
10.30-10.45 น. | พักเบรค |
10.45-12.00 น. | 11) กฎจราจร / ข้อห้าม และเครื่องหมายเตือนต่างๆในโรงงาน 12) เทคนิคการวิเคราะห์หาความเสี่ยงจากการควบคุมฟอร์คลิฟท์ (Job Safety Analysis) |
12.00-13.00 น. | พักรับประทานอาหาร |
13.00-16.00 น. | ทดสอบภาคทฤษฎี และปฏิบัติ หลังการอบรม ตอบข้อซักถาม |